คาปาซิเตอร์พลังงานไดอีพ็อกซีเรซิน 50kvar440V สำหรับกำลังปฏิกิริยา การจ่ายยา
กำลังปฏิกิริยาคืออะไร อำนาจในการตอบสนอง จะ เกิดขึ้นได้อย่างไร
ระบบ AC มี ช่องเปิดปิดของ พลังงานไฟฟ้าสองช่อง กำลังแบบแอคที ฟและ พาสซีฟ
พลังที่ใช้งานอยู่ Ali อุปกรณ์เหนี่ยวนำ ที่ทำงาน อยู่ ในระบบ AC จะแปลง พลังงานไฟฟ้า จาก ระบบแหล่งจ่ายไฟ ให้เป็น พลังงานเชิงกล และ พลังงานความร้อน ซึ่งเรียก ว่า activepower
กำลังปฏิกิริยา : เพื่อให้สามารถเปลี่ยนแปลงได้จึงจำเป็น ต้อง สร้างสนามแม่เหล็ก ใน อุปกรณ์ และ สนามแม่เหล็กเหล่านี้ จะเกี่ยวข้อง กับ พลังงาน ไฟฟ้าอีกรูปแบบ หนึ่งที่มีใน ระบบแหล่งจ่ายไฟ ซึ่ง เรียก ว่าพลังงานปฏิกิริยา
รูปแบบที่มีอยู่ ของ กำลังปฏิกิริยา จะเป็น แบบที่ไม่เป็นไปตามที่กำหนด
กำลังปฏิกิริยา ( หม้อแปลง มอเตอร์ ฯลฯ ) ตามที่ วงจรความเหนี่ยวนำกำหนดไว้
กำลังปฏิกิริยา ( สายเคเบิล ฯลฯ ) ต้องใช้ โดย CapaccemeCircuit Active Power kW = P, กำลังปฏิกิริยา KVAR = Q, กำลังปฏิกิริยารีไ ดนาเคิล + Q, กำลังปฏิกิริยาคาปาซิเตอร์ - กำลังปฏิกิริยาจาก Q แบตติค KVD= S
ตราบ ใดที่ ผู้ใช้ มีโหลดไฟฟ้า เช่น หม้อแปลงมอเตอร์ ในพื้นที่ทำงาน ผู้ใช้ จะใช้ กำลังปฏิกิริยา ดังนั้น ความต้องการ กำลังปฏิกิริยา จึง อยู่ในระดับที่พอดี
ที่จำเป็น สำหรับ ผู้ใช้
ปัจจัยกำลังไฟคืออะไร
ปัจจัยกำลัง ไฟคือ กำลังไฟที่ใช้งานเป็นกิโลวัตต์ ยิ่ง ปัจจัยกำลังไฟใกล้เคียง กับค่าสูงสุด ที่ 1 มาก เท่าใด PF ( กิโลวัตต์ )/S (KVA) ก็ยิ่ง เพิ่มมากขึ้นสำหรับ ผู้ใช้ และ แผนกแหล่งจ่ายไฟ
ตัวอย่างเช่น ถ้า ปัจจัยกำลัง ไฟเท่า กับ 0.7 ถ้า ปัจจัยกำลังไฟ ไม่ ถึง มาตรฐาน จะ มีค่าปรับ สำหรับ การชาร์จไฟฟ้า ปัจจัยกำลัง ไฟมาถึงแล้ว 0.95 หาก ปัจจัยกำลัง ไฟเกิน ดัชนีการประเมิน สำนักงานแหล่งจ่ายไฟ จะให้ปฏิทิน
เพิ่ม ประสิทธิภาพในการแก้ไข Power Factor ของ การปรับปรุงประสิทธิภาพของอุปกรณ์



